เคนทาโร่ โยชิฟูจิ (Kentaro Yoshifuji) CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Ory Laboratory Inc. ผู้ที่เข้าใจความเหงาจากการถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเป็นอย่างดี ด้วยสาเหตุการป่วยในวัยเด็กจนไม่สามารถไปโรงเรียนได้เป็นเวลา 3 ปี และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้โยชิฟูจิสนใจเรื่องการสื่อสารระหว่างหุ่นยนต์และผู้คน
“ผมต้องการทำให้ผู้คนสามารถพบปะกับคนที่เขาต้องการพบแม้จะอยู่บนเตียงผู้ป่วย ขณะเดียวกันผมก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากจะสร้างอนาคตที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในสังคมได้”
แม้ว่าทุกวันนี้การใช้เทคโนโลยีหรือหุ่นยนต์ดูจะเป็นเรื่องใกล้ตัวและกลายเป็นความปกติใหม่ที่พบเจอได้ทั่วไปในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น แต่ที่ Dawn Avatar Robot Cafe ในกรุงโตเกียว โยชิฟูจินำหุ่นยนต์ที่เขาออกแบบมาคอยให้บริการในร้าน ซึ่งความพิเศษของที่นี่ก็คือเจ้าหุ่นยนต์เหล่านี้ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ประมวลผลแบบหุ่นยนต์ Ai ทั่วไป แต่มันคือร่างอวตารของผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ หรือผู้ที่ไม่สามารถออกจากบ้านได้ เพื่อให้ผู้คนเหล่านี้ได้มีโอกาสสื่อสารกับผู้คนในสังคม เพิ่มคุณค่าและขจัดความเหงาให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์
Dawn Avatar Robot Cafe ประกอบด้วย 2 ส่วนใหญ่ โดยส่วนแรกให้บริการรูปแบบคาเฟ่และบาร์ มีหุ่นยนต์ “OriHime” ซึ่งเป็นหุ่นยนต์รุ่นแรกที่ถูกสร้างขึ้นคอยให้บริการรับออเดอร์ และหุ่นยนต์ “Tele-Barista” ที่มีหน้าที่ชงกาแฟและเครื่องดื่มอยู่ประจำบาร์
หุ่นยนต์ OriHime
หุ่นยนต์ Tele-Barista
อีกส่วนหนึ่งเรียกว่า OriHime Dinner เป็นบริเวณร้านอาหารมีบริการทั้งอาหารคาว หวาน และเครื่องดื่ม ส่วนนี้ลูกค้าต้องจองล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ มีหุ่นยนต์ “OriHime-D” หุ่นยนต์รุ่นที่ใหญ่กว่า ถูกพัฒนาตามฟังก์ชั่น จะมาคอยให้บริการต้อนรับลูกค้า รับออเดอร์ และเสิร์ฟอาหารในโซนนี้
หุ่นยนต์ OriHime-D
โดยหุ่นยนต์ทุกตัวจะประกอบไปด้วย กล้อง ไมโครโฟน ลำโพง เดสก์ท็อป และระบบส่งสัญญาณระยะไกลไปถึง “Pilot” หรือผู้ควบคุม ซึ่งทุกคนทำงางานที่บ้านหรือโรงพยาบาล Pilot มีหน้าที่ควบคุมหุ่นยนต์ตามตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย ผ่านระบบปฏิบัติการที่มีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความทุพลภาพของ Pilot แต่ละคน เช่น ควบคุมผ่านคอมพิวเตอร์แบบสัมผัสด้วยเมาส์ คีย์บอร์ดปกติ สำหรับผู้พิการช่วงล่าง หรือควบคุมผ่านระบบเซ็นเซอร์ด้วยสายตาสำหรับผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถขยับร่างกายได้
คาเฟ่แห่งนี้ไม่เพียงแค่ดูแลและใส่ใจพนักงานเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงลูกค้าทุกคนอย่างเท่าเทียม เห็นได้จากที่ภายในร้านมีพื้นที่รองรับรถเข็นผู้พิการ แหล่งจ่ายไฟสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องช่วยหายใจ และห้องน้ำสำหรับผู้พิการไว้คอยอำนวยความสะดวก
แนวคิดนี้ของโยชิฟูจิได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เป็นเครื่องย้ำชัดว่า OriHime มีปฏิสัมพันธ์และตอบสนองได้ดีกว่าหุ่นยนต์ในร้านอาหารอื่นๆ ที่ควบคุมด้วย Ai เพราะมันถูกควบคุมและสื่อสารจากมนุษย์โดยตรง สะท้อนให้เห็นว่าเมื่อระบบบริการถูกคิดในมุมมองผู้ใช้งานและมุมมองการแก้ปัญหา ไม่ได้มองเพียงแค่ในมุมธุรกิจ ก็จะทำให้เกิดบริการที่แตกต่างและยังช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องอื่นๆ ได้อีกด้วย
WHAT’S BETTER
- สร้างคุณค่าให้ผู้ที่หมดความหวังในชีวิต กลับมามีชีวิตในสังคมอีกครั้ง